วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

THE DAY AFTER TOMORROW วิกฤติวันสิ้นโลก



THE DAY AFTER TOMORROW วิกฤติวันสิ้นโลก

แนว : แอ็คชั่น / Sci-Fi / ดราม่า / ระทึกขวัญ
ความยาว : 124 นาที
กำหนดฉาย : 28 พฤษภาคม 2547

จะเป็นอย่างไร... หากโลกเรากำลังจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งครั้งใหม่?

นี่เป็นคำถามที่ตามหลอน แจ็ค ฮอลล์ (เดนนิส เควด) ผู้เป็นนักกาลวิทยา (paleoclimatologist) ผลที่ได้จากการค้นคว้าของฮอลล์ระบุว่า สภาวะโลกร้อนอาจเป็นชนวนหายนะ แห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันของภูมิอากาศโลก แกนน้ำแข็งที่เขาทำการเจาะในทวีปแอนตาร์กติกา บ่งว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน และในตอนนี้เขาได้ส่งคำเตือนไปยังหน่วยราชการ ว่ามันอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง หากไม่มีการดำเนินการโดยทันที แต่คำเตือนของเขามาถึงช้าเกินไป...

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น เมื่อฮอลล์ได้เจอกับก้อนน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับรัฐโร้ดไอส์แลนด์ ซึ่งแตกออกมาจากภูเขาน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ และจากนั้น คือปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก : ลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าผลส้มโอ ตกกระหน่ำเมืองโตเกียว ลมพายุเฮอริเคนรุนแรง ชนิดทำลายสถิติพัดเข้าสู่ฮาวาย หิมะตกที่เมืองนิวเดลี และจากนั้นพายุทอร์นาโดหลายลูก ก็เข้ากวาดเมืองลอสแอนเจลิส

โทรศัพท์ที่เขาได้รับจาก ศาสตราจารย์แร็พสัน (เอียน โฮล์ม) เพื่อนร่วมงานในสก็อตแลนด์ ยืนยันให้กับความกลัวที่ร้ายแรงที่สุดของแจ็ค : สภาวะอากาศรุนแรงเหล่านี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก น้ำแข็งที่ปกคลุมบนขั้วโลกได้ละลาย และทำให้น้ำไหลทะลักลงสู่มหาสมุทร และรบกวนกระแสคลื่น ซึ่งเป็นตัวสร้างสมดุลย์ของระบบภูมิอากาศของเรา สภาวะโลกร้อนได้ผลักดันให้โลก เฉียดเข้าไปใกล้กับยุคน้ำแข็งครั้งใหม่ และมันจะเกิดขึ้น ในระหว่างที่พายุมหึมาลูกหนึ่งถล่มไปทั่วโลก

ในขณะที่แจ็คเตือนทำเนียบขาว เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่กำลังคุกคามโลกนั้น แซม (เจค กิลเลนฮาล) ลูกชายวัย 17 ของเขาก็ติดอยู่ในนิวยอร์ค ซิตี้ ในระหว่างที่เขาและเพื่อนๆ ไปร่วมแข่งขันด้านวิชาการระดับมัธยม และตอนนี้เขาต้องเผชิญกับอุทกภัยร้ายแรง และอุณหภูมิที่กำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็วในแมนฮัตตัน ต่อมา เมื่อได้ถูกอพยพเข้าไปอยู่ในหอสมุดสาธารณะแห่งแมนฮัตตัน แซมจึงสามารถติดต่อกับพ่อของเขาได้ทางโทรศัพท์ แจ็คมีเวลาที่จะเตือนลูกเพียงข้อเดียวเท่านั้น : จงอยู่แต่ในอาคารไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

ในขณะที่การอพยพประชากรครั้งใหญ่เพื่อมุ่งหน้าลงใต้เริ่มขึ้นนั้น แจ็คก็เดินทางขึ้นเหนือสู่นิวยอร์ค ซิตี้ เพื่อช่วยแซม แต่แม้แต่แจ็คก็ไม่ได้เตรียมตัว ที่จะเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น – กับตัวเอง กับลูกชายของเขา และกับโลกของเขา...

ในภาพยนตร์เรื่อง Independence Day โรแลนด์ เอ็มเมอริค เคยพาเราไปพบกับโลก ที่เกือบจะถูกทำลายโดยมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว คราวนี้ในเรื่อง The Day After Tomorrow เราจะได้พบกับศัตรู ที่สามารถทำลายล้างได้มากยิ่งขึ้นไปกว่า นั้นคือ "ธรรมชาติ"

ภาพยนตร์ยอดฮิตแห่งปี 1996 ของ ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ เรื่อง Independence Day นั้นเป็นหนังไซไฟขนานแท้; มันไม่ได้อิงจากความเชื่อที่มีกันอย่างกว้างขวาง ว่าการบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาวนั้น เป็นเรื่องที่ใกล้เข้ามาทุกที แต่ The Day After Tomorrow มาจากสถานการณ์ ที่หยั่งรากมาจากความกังวลอย่างแท้จริง เกี่ยวกับสภาวะของโลกเรา

เราเดินทางไปถึงช่วงเวลา ที่ยุคน้ำแข็งอาจเกิดขึ้น แต่ทฤษฎีที่ว่าภาวะโลกร้อน อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างฉับพลัน นับว่ากำลังอยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่ ในขณะที่ไม่มีใครรู้ว่า ผลที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร กับการที่มนุษย์สะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มเข้าไปในชั้นบรรยากาศ ผู้เชี่ยวชาญบางคนได้อ้างถึง มันว่าเป็น 'การทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจควบคุมได้ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์'

งานที่น่าหวาดหวั่นในการจัดทำ สร้างสรรค์ ก่อสร้าง และนำเสนอจากมุมมองของ โรแลนด์ เอ็มเมอริค ตกเป็นหน้าที่ของผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ แบรี่ ชูซิด, ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็ค แคเรน กูเลคาส, ผู้ควบคุมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็ค เจ้าของรางวัลออสการ์ นีล คอร์โบลด์ และทีมงานที่ได้เคยร่วมงานกับผู้กำกับฯ เอ็มเมอริคมาก่อนแล้ว ร่วมกับซอฟท์แวร์สร้างฉากภาพเสมือนจริงที่เรียกว่า Terragen ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดย Digital Domain

The Day After Tomorrow เขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดย โรแลนด์ เอ็มเมอริค (The Patriot, Godzilla, Independence Day, Stargate, Universal Soldier) โดยมี เจฟฟรีย์ นัคแมนอฟ เป็นผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย เดนนิส เควด (Any Given Sunday, The Parent Trap, Dragonheart, Wyatt Earp, The Right Stuff), เจค จิลเลนฮาล (Donnie Darko, Moonlight Mile, Bubble Boy, October Sky) ร่วมด้วย เอียน โฮล์ม (The Lord of the Rings, From Hell, The Fifth Element, Chariots of Fire), เอ็มมี่ รอสซัม (Mystic River, Phantom of the Opera), เซล่า วอร์ด (Dirty Dancing: Havana Nights, 54, The Fugitive)

กฎเกณฑ์วิทยาศาสตร์

เนื้อเรื่องกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะโลกร้อนนั่นเอง และหนังทำให้เห็นอนาคตว่า หากโลกเราร้อนถึงจุดวิกฤติแล้ว สิ่งที่เราจะทนอยู่ไม่ได้นั่นคือ การเข้าสู่ภาวะน้ำแข็งคล้ายกับขั้วโลกใต้ หนังได้อ้างอิงเอาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกมาเป็นจุดเสริมให้เ็ห็นความเป็นจริงให้เราเชื่อถือได้มากขึ้น ซึ่งมันเป็นอย่างนั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะยังบอกชัดไม่ได้ว่า อนาคตของโลกเราจะเป็นอย่างไรกันแน่ จะร้อนขึ้น จะเย็นลง จะน้ำท่วม แต่ทุกสิ่งที่เหมือนกันก็คือ มนุษย์จะอยู่อย่างไม่มีความสุขเหมือนปัจจุบันอีกแล้ว เท่านี้พอให้เรารู้สึกรักโลกขึ้นมาบ้างหรือยัง หรือว่ายังจะทำลายต่อไปอีก

ความเป็นไปได้ในความเป็นจริง

ในหนังอาจจะกล่าวถึงเฉพาะสหรัฐเท่านั้นที่จะเป็นยุคน้ำแข็ง ส่วนทวีปอื่นเป็นอย่างไรไม่ได้กล่าวถึง ฉะนั้นก็เป็นการจิตนาการตามสมมติฐานว่า ถ้าหากโลกเข้าสู่ภาวะน้ำแข็งอีกครั้งจะเป็นอย่างไร และความเป็นไปได้ยากอีกอย่างก็คือการเกิดภาวะยุคน้ำแข็งแบบรวดเร็วมาก ซึ่งคงจะเป็นไปได้ยากหากจะเกิดแบบนั้นจริงๆ แต่ยังไงหนังเรื่องนี้ก็อยู่ในใจผมอีกเรื่อง ผมชักจะชอบผู้กำกับหนังเรื่องนี้แล้วสิ ผับผ่า



sci-film-dayaftertomorrow